รีวิว Jumanji: The Next Level | เกมดูดโลก ตะลุยด่านมหัศจรรย์
รีวิว Jumanji ภาคที่แล้วที่ทำเอาคนดูฮาเกลือกกันไปหนังเสี่ยงอันตรายเบาสมองของผู้ที่ถูกเกมเก๋าดูดเข้าไปแล้วต้องเล่นให้จบรอดกลับออกมา ได้เวลาต่อด้วยภาคสอง Jumanji: The Next Level หรือชื่อไทย เกมดูดโลก ตะลุยด่านมหัศจรรย์ ด้วยกลุ่มนักแสดงชุดเดิมที่เพิ่มความหรรษาเรื่องย่อหนัง ‘Jumanji: The Next Level’ข้างหลังเดอะกลุ่มเอาตัวรอดจากเกมจูแมนจี้ได้สำเร็จ พวกเขาก็จำเป็นต้องกลับเข้าไปเกมอีกทีในภาคนี้ เพียงแค่ด้วยเหตุว่าเอ็ดดี้ หนึ่งในกลุ่มดันหลุดเข้าไปในเกม จนถึงเพื่อนฝูงที่เหลือต้องติดตามค้นหาและก็มาพบว่าเขาถูกเกมดูดเข้าไป วิถีทางเดียวที่นึกออกเป็นพวกเขาจำเป็นต้องเข้าไปเกมอีกรอบเพื่อช่วยเขาออกมาเมื่อเกมไม่ได้ดึงไปแต่เฉพาะเดอะแก๊ง แม้ยังดึงเอาคุณตาของเอ็ดดี้แล้วก็ไมโลเพื่อนพ้องของคุณตาก็หลุดเข้าไปด้วย แถมยังไม่มีผู้ใดเลือกกันเลยว่าคนไหนกันแน่จะเป็นอวาตาร์ตัวไหน
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นการสุ่มงานนี้ทั้งยัง Dwayne Johnson, Jack Black, Kevin Hart และทั้งยัง Karen Gillan ทั้งยังสี่ยังคงกลับมาวาดลวดลายในเกมอย่างเคย และมี Danny Glover และก็ Danny DeVito แถมยังมี Awkwafina แล้วก็ Nick Jonas มาร่วมสร้างเสริมความฮาปั่นป่วนให้ภาคต่ออีกด้วยรีวิว วิภาควิจารณ์หนัง ‘Jumanji: The Next Level’บางทีอาจเป็นหนังที่แมสเข้าขั้นชนิดที่ว่าคนจำนวนมากที่ตีตั๋วเข้ามาดูหนังประเด็นนี้ ย่อมจำเป็นต้องรู้จักแล้วก็เคยผ่านการดูหนังภาคก่อนมาบ้างแล้ว
กระทั่งไม่ต้องบทนำอะไรมากไม่น้อยเลยทีเดียว
เริ่มต้นมาก็เข้าเนื้อหากันทันที ด้วยการนัดพบกันของผองเพื่อนพ้อง แต่ว่าดูราวกับว่าผู้ที่หายไปนั้นคือเอ็ดดี้ ชายหนุ่มเนิร์ดผู้ที่มีภาระหน้าที่ต้องเลี้ยงคุณตาที่ความชราทำให้เขาต้องอยู่กับลักษณะการป่วยๆและก็ความหลงๆลืมๆกระทั่งสหายจะต้องมาตามหาถึงที่บ้าน และก็ได้รับรู้ว่าเขาหายไปในอยู่ในเกมเสียแล้วงานนี้
พวกเขาก็เลยต้องกลับไปช่วยเพื่อนฝูงอีกครั้ง ด้วยการให้เกมดูดเข้าไป แต่ว่าความแปลกใหม่ของภาคนี้เป็นการเกมมันเลือกจะดูดคนไหนกันเข้าไปตามใจมัน อีกทั้งเลือกให้พร้อมสรรพว่าจะคนใดจะได้เป็นตัวค้างแรกเตอร์ไหนในเกมสิ่งที่เพิ่มเติมอีกมาจากภาคก่อน นอกจากนักแสดงที่อยู่ในเกมจะมากขึ้นแล้ว ยังมีอ็อปชั่นเสริมเยอะแยะ อีกทั้งการสับเปลี่ยนค้างแรกเตอร์กันได้ด้านในเกม
ฉากแล้วก็ด่านใหม่ที่เป็นทั้งยังทะเลทรายและเทือกเขาเยือกแข็ง บุคคลภายนอกยังแทรกซึมเข้ามาคราวหลังได้ สิ่งที่ยังมีอย่างเดิมก็คือ แต่ละตัวจะตายได้เพียงแค่สามครั้งโดยมีภารกิจที่ได้รับมาจากในเกมเป็นตัวดำเนินเรื่องราวร่องรอยร่องรอยต่างๆจะถูกย้ำเตือนอยู่ตลอดเพื่อที่จะได้ให้พวกเรายังเกาะเกี่ยวกับภารกิจได้อยู่ เพราะว่าบางทีก็อาจจะครึกครื้นกับการเสี่ยงภัยกระทั่งหลงลืมร่องรอยที่ควรสังเกตกันไปแล้วงิถ้าจะพอใจให้ความตลก ฮา ขำเกลือก ของมุกและก็ตัวละคร
ก็ถือว่าภาคนี้ยังคงทำได้ดีอยู่ก็แค่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีและใช้ได้ผลไม่มากเท่าภาคก่อนอยู่สักนิด อาจจะบางช่วงที่นิ่งๆบ้าง แต่บทจะฮาก็ฮากระจัดกระจายได้แบบเดียวกันการที่มีคนสูงอายุเข้าไปอยู่ในเกมด้วย พวกเขาไม่เคยเล่นเกมอย่างงี้ การใส่มุกของคนวัยชราที่ไม่เข้าใจเกมจึงเป็นวิธีที่ได้ผลบ่อยๆในหนังเกี่ยวกับเกมนอกเหนือจากการผจญภัยและความเฮฮาแล้ว
เรื่องดราม่าก็เป็นอีกพาร์ทที่แทรกซึมเข้ามาหนังมุ่งหมายจะเล่าของมิตรภาพระหว่างเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนเก่าสหายแก่ที่คบหากันมานาน สหายที่คบอยู่ในกลุ่มในกลุ่มเดียวกัน ไม่เว้นแม้กระทั้งเพื่อนเกลอที่ห่างเหินนิ่งๆกันถ้าคนใดกันเคยชมจูแมนจี๋เวอร์ชั่นดั้งเดิมและก็จำได้ บางครั้งก็อาจจะรู้สึกได้ถึงการหยิบเอาอะไรบางอย่างในเวอร์ชั่นนั้นกลับมาใช้อีกรอบ อีกทั้งหนังยังวางเซอร์ไพรส์เอาไว้บางจุด
ให้เราได้อึ้งเพราะเหตุว่าไม่คาดฝันอะไรอย่างงี้ด้วยภาคนี้จบท้ายด้วยฉากแถมที่สามารถพูดได้ว่าจะต้องดู ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของหนังประเด็นนี้มาแม้กระนั้นภาคไหนก็ตาม กึ่งกลาง End Credit รอไม่นานก็จะได้เจอกับฉากที่น่าจะบ่งบอกถึงที่กำลังจะได้พบเจอในภาคต่อไป
ชื่อภาพยนตร์: Jumanji: The Next Level / เกมดูดโลก ตะลุยด่านมหัศจรรย์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Jake Kasdanผู้เขียนบทหนัง: Jake Kasdan, Jeff Pinkner ผู้แสดง: Dwayne Johnson, Jack Black, Kevin Hart, Madison Iseman, Awkwafinaแนว/ประเภท: Action, Adventure, Comedy, Fantasyความยาว: 123 นาทีอัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1ปี: 2019เรท: ไทย/, MPAA/PG-13วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: ฉายรอบพิเศษ 18-24 ธันวาคม 2019 ฉายจริง 25 ธันวาม 2019
ผู้ผลิต/ผู้สร้างผู้จัดจำหน่าย: Hartbeat Productions, Matt Tolmach Productions, Seven Bucks Productionsอีกหนึ่งหนังที่ต้องฉวยโอกาสน้ำขึ้นให้รีบตักของจริง เพราะผู้ผลิตเองก็ไม่น่าจะคาดหวังว่าหนัง Jumanji: Welcome to the Jungle (2017)
ที่สืบต่อจากหนังแฟนตาซีปี 1995 Jumanji จะสามารถได้รับความนิยมได้ระเบิดระเบ้อเพียงนี้ รายได้ทั้งโลก 962 ล้านเหรียญ อีกน้อยมากจะแตะพันล้านเหรียญแล้วเชียว หนังภาคต่อก็เลยถูกเข็นตามหลังออกมาด้านใน 2 ปี หนังพึ่งถ่ายทำเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เอ๊ง และปิดกล้องเมื่อเดือนพฤษภาคม
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนข้างหลังการถ่ายทำแบบเร่งด่วนเพื่อทันออกฉายธ.ค.นี้ บ้านเราฉายชนกับ Star Wars : Rise of the Jedi แต่ที่อเมริกาได้ฉายก่อนอาทิตย์นึง ก่อนที่สตาร์วอร์สจะมาแชร์โรงฉายภาคนี้ได้โอกาสมงานเดิมกลับมากันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งยังหน้ากล้องถ่ายภาพและก็ข้างหลังกล้องถ่ายรูป มีเสริมเติมหน่อยก็ที่ เจค คาสดาน ผู้กำกับลงไปร่วมเขียนบทเองด้วยในภาคนี้
ทีมงานคงจะบันเทิงใจกับการเลือกจับลักษณะเด่นที่ผู้ชมถูกใจจากภาคแรกมาใส่เอาไว้ภายในภาคนี้ได้ครบสมบูรณ์ ทั้งยังเรื่องพรสวรรค์ รวมทั้งข้อเสียของแต่ละคาแรกเตอร์ในเกม แล้วก็มีการอ้างอิงถึงสถานะการณ์เด่นๆในภาคก่อนอยู่บ่อยครั้ง บางมุกก็อิงจากเรื่องราวในภาคที่แล้วอีกด้วย ถ้าคนใดกันไม่เคยมองภาคที่แล้วความสนุกสนานจะหายไปเยอะเชียวล่ะ และอีกหลายๆสีสันที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้
ทั้งตัวละครใหม่ๆฉากใหม่ๆที่ภาคนี้ไม่อยู่ในป่าแล้ว แต่พาไปตะลุยทะเลทราย แล้วก็พาไปตะกายเทือกเขาหิมะ ทำให้หนังต้องเพิ่มงบประมาณมาใช้ในงานซีจีอีกมากมาย โดยยิ่งไปกว่านั้นฉากฝูงลิงจู่โจม รวมทั้งฉากนกกระจอกเทศวิ่งไล่ ซึ่งทั้งคู่ฉากเป็นฉากที่สนุกตื่นเต้นของภาคนี้เลยล่ะ ทำให้งบประมาณของภาคนี้โดดไปเป็น 125 ล้านเหรียญ ภาคที่แล้ว 90 ล้านเหรียญ
สองรายหลักที่ถูกเพิ่มเข้ามาแล้วถูกใช้เป็นองค์ประกอบหลักในภาคนี้เป็น แดนนี เดอวิโต รวมทั้ง ดินแดนนี โกลเวอร์ สองนักแสดงอาวุโสจากยุค 80s ผู้คนจำนวนมากน่าจะจำดินแดนนี เดอวิโต ได้จากบท เพนกวิน ตัวร้ายจากหนังแบทแมน Batman Returns ปี 1992 แล้วก็ได้ประกบคู่กับ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ใน Twins หนังคอมมีดี้ปี 1988 , ส่วน ดินแดนนี โกลเวอร์
ก็มีบทบาทจดจำคือ นายสิบเมอร์ทัฟ จากแฟรนไชส์ Lethal Weapon ที่ได้เกาะติดคู่กับ เมล กิ๊บสัน ทั้งคู่รายมาในสภาพตาสูงวัยที่เดินกระซ่องกระแซ่ง ทั้งคู่ได้เปิดตัวในตอนต้นเรื่องแพร้บนึง ดินแดนนี เดอวิโต มาในบท เอ็ดดี้ ตาของสเปนเซอร์ ตัวเอกจากภาคก่อน ส่วน แดนนี โกลเวอร์ มาในบท ไมโล เพื่อนเก่าแก่ของเอ็ดดี้ ที่มีเรื่องมีราวราวผิดใจกันในสมัยก่อน ทั้งคู่บังเอิญโดนดูดไปร่วมผจญภัยในเกม Jumanji รอบใหม่นี้ ซึ่งระหว่างที่หนังเดินหน้าไปก็เบาๆเผยเหตุหมางใจของเพื่อนเก่าเพื่อนแก่คู่นี้การที่ได้สองรุ่นใหญ่นี้มาเป็นแบบอย่างก็ถือว่าเป็นสีสันใหม่ของภาคนี้
เพราะว่าพวกเราได้มองเห็น ดเวย์น จอห์นสัน ที่จะต้องเลียนแบบบุคลิกของ แดนนี เดอวิโต ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าดเวย์นมองอุตสาหะดี แต่ว่าที่ฮากว่า เควิน ฮาร์ต ที่จำเป็นต้องเอาอย่างลักษณะท่าทางของ ดินแดนนี โกลเวอร์ ที่กลับหน้าที่จากรายที่พูดมากเสียงแหลมๆมาเป็นคนพูดช้าๆเนิบๆแล้วพอนำไปใช้ในฉากฉุกเฉินที่ทุกคนจำต้องรอฟังไมโลค่อยๆเอ่ยแต่ละคำก็ชักชวนลุ้นรวมทั้งตลกดี
อควาฟิท้องนา เป็นคาแรกเตอร์ใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าในภาคนี้ในบท “หมิง ตีนแมว” ที่คุณจะต้องเจอโจทย์ยากด้วยการแสดงเลียนหลายๆค้างแรกเตอร์ต้นแบบ ด้วยเหตุว่าอีกสีสันหนึ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในภาคนี้ เป็นค้างแรกเตอร์ในเกมสามารถสับเปลี่ยนตัวตนกันได้ บรรดาดาราหนังแต่ละคนก็เลยจำเป็นต้องเปลี่ยนบุคลิกลักษณะกันบันเทิงใจ แล้วก็เพิ่มช่องให้สอดแทรกมุกฮาได้มากขึ้น
รายใหม่ในภาคนี้ที่หลายท่านคุ้นหน้ากันดีก็คือ ลังเล แม็กเคน ที่รู้จักกันดีในบท เดอะ ฮาวนด์ จาก Game Of Thrones ก็ถูกใส่เข้ามาในบท “ไอ้หนวดเคราโหด” ตัวร้ายของภาคนี้ แต่ว่า Jumanji เป็นหนังแฟนตาซี-คอมมีดี้ นี่นะ บรรดาตัวร้ายในหนังก็เลยไม่อยู่ในสถานะที่น่าวิตกกับเหล่าข้างดีเท่าไรนัก ลดสถานะมาเป็นตัวประกอบที่ทำให้เรื่องราวเดินหน้าไปได้แค่นั้น แต่อารมณ์ในภาคนี้ที่ผิดแผกไปอย่างชัดเจน
คือสัดส่วนด้านดราม่าของหนังที่รับประทานพื้นที่ในเรื่องราวพอเหมาะ ทั้งยังดราม่าระหว่างเพื่อนรักรุ่นดึก เอ็ดดี้กับไมโล ที่ทำเป็นซึ้งน้อย เพราะเหตุว่าเป็นการเปิดใจกันผ่านภาพลักษณ์ของติดอยู่แรกเตอร์ในเกม ที่้ต้องพึ่งจินตนาการของผู้ชมพอเหมาะ รวมทั้งดราม่าระหว่างรุ่นเยาว์ของ ประเทศสเปนเซอร์แล้วก็มาร์ธา ที่เป็นฉากเดียวในหนังที่เชิญตะขิดตะขวงหัวใจ
ทำมั้ยจะต้องมาสะสางปัญหาจิตใจกันระหว่างที่ไต่ผาอยู่ด้วยนะสรุป จุดขายจากภาคก่อนหน้ามาครบ เพิ่มเติมสีสันใหม่ๆอีกมาก มองได้เพลิดเพลินเจริญใจตลอด 2 ชั่วโมง ได้ทั้งยังลุ้นและก็เสียงหัวเราะ แล้วก็ได้ดูภาพซีจีตระการตา ฉากหนีฝูงลิงบนสะพานแขวนเป็นฉากที่สนุกสนานสุดแล้วในภาคนี้
แม้กระนั้นถ้าเกิดชั่งน้ำหนักรวมแล้วความฮาน้อยกว่าภาคแรก แม้กระนั้นใครที่ได้มองภาคก่อนแล้ว ภาคนี้ก็ไม่สมควรพลาดเป็นอย่างมาก หนังมีฉากหลังเครดิตจบแบบไม่ต้องนั่งรอนะครับ เป็นเรื่องราวที่เชื่อมโยงไปภาคต่อไป