[รีวิว] The Maid สาวลับใช้ – ผี ชนชั้น และการก้าวข้ามแนวหนังที่คุ้นเคย
รีวิว The Maid ตั้งแต่ Netflix เปิดตัวในไทยก็ทยอยอัดคอนเทนต์เด็ดๆมาเอาอกเอาใจผู้ชมชาวประเทศไทยอยู่เนืองๆรวมทั้งยิ่งหลังจากเริ่มซื้อพวกละครไทย และก็ซีรีส์ไทย รวมถึงร่วมลงทุนสำหรับการผลิตคอนเทนต์โดยตลอดก็ย่อมแน่ชัดแล้วว่าคอนเทนต์ไทยบน Netflix ดูเหมือนเป็นไฮไลต์เด็ดสำหรับผู้ชมไทยไม่แพ้ซีรีส์เกาหลีที่ทยอยครอบครองความชื่นชอบโดยตลอด แล้วก็ภายหลังจากผลิตซีรีส์ไทยแนวระทึกขวัญอย่าง คว้างเคว้ง เปิดตัวไปปีกลาย ก็ถึงเวลาคอนเทนต์หนังยาวอย่าง The Maid ของผู้กำกับ ลี ทองคำ มาให้ผู้ชมพิสูจน์ความน่าสยองและก็ลุ้นระทึกด้วยรสชาติแปลกใหม่แต่ว่าไม่ระคายลิ้นกันแล้วโดยเรื่องราวใน The Maid หรือ สาวลับใช้ ก็แน่นอนว่ามันชี้กระจ่างว่านี่จะเป็นหนังที่เล่นกับการรับทราบหรือ Perceptionของคนดูต่อหนังผีที่มาในทรงเดียวกัน ตั้งแต่เปิดเรื่องที่มันฉายภาพคนใช้คนก่อนหน้ากับความหลอนที่จำต้องเข้าไปดูแลหนูน้อยตัวน้อยที่มีปัญหาทางจิตพร้อมผีลิงสุดหลอนที่ทำให้เธอจะต้องยื่นจดหมายลาออกจากงานแม่บ้านที่ทำอยู่ เป็นเสมือน Prologue หรือ อารัมภบทตามทำเนียมหนังฮอลลีวูดหลังจากนั้นสไตล์ภาพแล้วก็การเล่าเรื่องก็มาในโหมดละครๆโดยทันที
ทั้งยังรถโบราณที่ไปรับตัว จอย (พลอย ศรนรินทร์) สาวรับใช้คนใหม่ของบ้าน และก็เมื่อมาถึงเธอก็เริ่มสังเกตได้ถึงความผิดปกติต่างๆอีกทั้งบุตรสาวที่ดูไม่ดีเหมือนปกติเหมือนกับหลุดมาจากหนังเด็กอันธพาลของฮอลลีวูดที่ถูกใจเห็นผีๆสางๆหรือ คุณอุมา (สาวิกา ไชยบารมี) คนแม่ที่แต่งตัวอย่างกับตัวเองอยู่มิลานแฟชันวีคตลอดระยะเวลา แล้วก็คุณสุภาพบุรุษ (ธีรภัทร์ สัจจกุล) ที่วันๆมือมิได้ห่างจากแก้วเหล้าเลยทีเดียวและตามสไตล์ว่าภายหลังจาก หัวหน้าแม่บ้าน (ณัฐนี สิทธิสมาน) กล่าวว่าอย่าสอดรู้สอดเห็น
สาวหน้าจอยก็เดินตรวจบ้านรวมทั้งทำทุกสิ่งที่หัวหน้าแม่บ้านนางบอกโดยทันที และเจอดีตามฟอร์มกับผีสาวคนใช้สุดหลอน และความลับเบื้องหลังการมาทำงานที่บ้านหลังนี้ของเธอก็เบาๆเฉลยคำตอบออกมาในองก์สองและองก์สามของหนังตามลำดับต้องยอมรับล่ะว่าถ้าเกิดจะเอามาตรฐานการเล่าเรื่องหนังผีไทยระดับตำนานอย่าง
เปนชู้รักกับผี ของ วิศิษย์ ศาสนเที่ยง หรือ สุขสันต์วันกลับไปอยู่ที่บ้าน ของ ก้องเกียรติยศ โขมศรี ที่นับว่าเป็นต้นแบบสำคัญของหนังมาเป็นตัวชี้วัดความกลมกล่อมของบทภาพยนตร์และการกำกับที่มองประณีตบรรจงกว่าก็อาจจะมิได้ โดยเหตุนี้งานชิ้นนี้ของ ลี ทองคำ เลยเป็นเสมือนการทดลองดั่งที่เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับผมตอนวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 สำหรับการฉายรอบสื่อมวลชนที่ กันตนาฟิล์มสตูดิโอ เสียมากกว่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวแม้จะรีวิวรวมทั้งคิดตามเราบางทีอาจจำต้องแยกดูตามการเล่าเรื่องในแต่ละองก์ของหนังดังนี้ผี..วิญญาณ..ที่ยังชิดกับสถานที่
เรียกง่ายๆว่านี่เป็นภาพจำของผีไทยแล้วก็ผีเอเซียเลยก็ว่าได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของความแค้น อาฆาตพยาบาท ที่ทำให้วิญญาณยังไม่ไปไหนแล้วก็เฝ้าวนเวียนอยู่บริเวณสถานที่หรือบุคคลที่ตนผูกพัน สำหรับองค์แรกที่ ลี ทอง ตั้งมั่นทำเป็นหนังผีแบบไทย ๆ ย้ำตุ้งแช่เอาให้หัวใจวายกันไปข้างนึงโดยความเป็นจริงแล้ว
พวกเราจะสังเกตความเปลี่ยนไปจากปกติในอะไรได้หลาย ๆ อย่าง ตั้งแต่ตุ๊กตาลิงอิริยาบถน่ากลัวแล้วก็แถมมีวิญญาณลิงอีกส่วนการแต่งตัวของคุณนายอุมา ก็กระจ่างเลยว่ามันแสดงถึงความเปลี่ยนไปจากปกติตั้งแต่ออกแบบแล้ว โดยยิ่งไปกว่านั้นชุดที่แต่งตัวเหมือนหนึ่งอยู่ยุโรปในขณะที่ตนเองอยู่เมืองไทย ราวกับอยาก “หนี” จากอะไรสักอย่าง แม้กระนั้นแทนที่จะเป็นการวิ่งราวกับหญิงรับใช้อย่าง หน้าจอย
เธอกลับใช้การแต่งตัวเพื่อหลบแล้วก็ทีละเล็กละน้อยเพียงพอเรื่องราวไปเฉลยคำตอบปมในองก์ที่ 2 พวกเราจะเข้าดวงใจได้เลยว่าทำไมการแต่งตัวของคุณถึงดูเป็นมิลานแฟชันวีคขนาดนี้ด้านคุณผู้ชาย แม้จะลบหลู่ดูหมิ่นทำให้ด้อยบทบาทไปนิด แต่ว่าการปูพื้นว่าตัวเองเป็นเสมือนเบี้ยล่างของเมียตลอดระยะเวลาก็แสดงถึงการถูกลดทอนอำนาจ โดยเฉพาะการที่หนังให้สถานะเป็นสามีที่เกาะเมียรับประทานก็แน่นอนล่ะ การ “หนี” ที่ดีเยี่ยมที่สุดตอนที่ตัวเองขยับไปไหนก็ตรากตรำคงจะไม่พ้นการ กินเหล้า
ที่ช่วยพรากสติที่ซ้ำเติมความต่ำ รวมทั้งแน่ ๆ รวมถึง “ความผิดพลาดบาป” ที่จะเฉลยคำตอบในองก์ที่ 2 ด้วยรักต้องห้าม ดราม่า และก็ปัญหาที่เกิดจากทางจิตเรื่องที่คนดู ดูจะติติงหนังเป็นพิเศษอาจจะเป็นช่วงองก์ 2 นี่แหละ เพราะอย่างที่ตามองเห็น โทนของหนังถูกทำให้เบาลงกว่าองก์แรกที่เอาผีมา แฮร่…. ใส่ผู้ชมจนเหน็ดเหนื่อยแล้ว แต่ถ้าดูอย่างพินิจพิเคราะห์ มันเป็นการพยายามกะเทาะความคิด จิตใจ ผู้แสดงแต่ละตัว
อย่างน่าดึงดูดทีเดียว อย่างคุณนายอุมา ที่สามีมองไม่เห็นความสำคัญของคุณ หรือ แรงปรารถนาด้านกามารมณ์ที่มิได้รับการโต้ตอบของคุณสุภาพบุรุษและก็นี่เองก็คือการเฉลยที่มาการถึงแก่กรรมอย่างน่าเวทนาของ พลอย (น้ำหวาน กรรณาภรณ์) สาวรับใช้ที่รู้ใจเจ้านายทั้งสอง โดยยิ่งไปกว่านั้นการที่จะต้องเป็นเครื่องดับความต้องการของเหล่าผู้ดีที่ถึงเวลา “เป็นสัด” ก็กระทำตนไม่มีความต่างจากดิรัจฉาน นั่นทำให้การพูดถึงอดีต หรือ ฉากแฟลชแบ็กต่าง ๆ กลับไม่ได้ให้ข้อมูลเพียงเรื่องว่า “พลอยตายยังไง” เพียงอย่างเดียว
ตรงกันข้ามมันกำลังไปอธิบายความประพฤติปฏิบัติของคนในบ้านในองก์ที่ 1 อีกด้วยในฉากเล็ก ๆ ของหนังที่ หน้าจอย ได้เข้าไปอยู่ในครัวร่วมกับพวกบรรดา สาวรับใช้รุ่นพี่
เราจะเห็นพฤติกรรมที่ดูปกติมากมายแต่กลับมีที่มาในทันทีเมื่อหนังบอกกล่าวความเป็นจริงในองก์ที่ 2 โน่นคือการเสพติดความเงียบรวมทั้งการห้ามไม่ให้ผู้ใดถามหรือสงสัยในบ้านของหัวหน้าแม่บ้าน การบิดเบือนเรื่องจริงของพ่อบ้านคนขับรถ รวมทั้งหนักสุดเป็นความประพฤติชอบฟังเพลง งัดถั่งงัด ของพี่แม่บ้านลุคคนใช้อีสาน ที่พวกเรามองเห็นกันมาจนเฝือแล้วก็ให้ภาพที่คลีเช่มากมาย ๆ แต่ว่าพอเพียงมาอยู่ในบริบทของเรื่องราวอย่างงี้ก็ทำให้มันพิเศษอย่างบอกผิดเพ้อคลั่ง แล้วก็ หลั่งเลือด
WHAT THE FACT รีวิว The Maid
สาวลับใช้ในบทจบท้ายคงจำต้องพูดว่าในเมื่อเรื่องราวได้เฉลยปมต่าง ๆ ครบสมบูรณ์แล้ว การคิดบัญชีโกรธแค้นในองก์ในที่สุด เลยเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง และก็เป็นการปล่อยรวมทั้งท้าความคิดผู้ชมชาวไทยอย่างแท้จริง เพราะไม่บ่อยหรอกที่หนังไทยจะหักมุมให้เรื่องราวในส่วนท้ายกลับแล้วก็บิดทวิสต์ แนวหนัง หรือ Genre แบบหักศอกราวกับ “หนังคนละม้วน”
ขนาดนี้และที่ต้องชื่นชอบมากมายคืองานกำกับศิลปในฉากปาร์ตีส่งท้ายเรื่องราวที่ให้เพื่อนร่วมงานสวมชุดสีขาว ที่ในที่นี้ไม่ได้แสดงถึงความบริสุทธิ์เช่นไร ตรงกันข้ามเมื่อพวกเรามาวิเคราะห์แล้วชุดสูทสีขาวอาจจะมิได้แทนอะไรที่ผิดเพี้ยนไปจากชุดประจำการของบรรดา อีลิต (Elite) หรืออภิสิทธิชนที่มีตังค์และเวลาในชีวิตเพียงพอมาเสพของฟุ่มเฟือยอีกทั้งไวน์และก็ของกินคานากระเป๋าแบบที่มองเห็นในหนังได้ ฉะนั้นเมื่อเรื่องราวดำเนินมาสู่จุดที่เพ้อคลั่งที่สุดของหนัง การเข่นฆ่าเลยเหมือนการแก้เผ็ดที่ไม่เพียงแค่เรื่องเฉพาะบุคคล แม้กระนั้นมันยังสาวไปได้ถึงการไม่ยอมรับแล้วก็กำจัดเรื่อง “ชนชั้น” อย่างอดคิดไม่ได้เสียง… ดนตรีประกอบ… กับโสตทัศน์ของสาวลับใช้
ในเมื่อผมได้ได้โอกาสไปสัมภาษณ์ คุณสามเทพ ตระกูลไพบูลย์ หรือ คุณอู่ วง Kidnappers ผู้ควบคุมการมิกซ์เสียงในภาพยนตร์ก็เลยขอสรุปใจความสำคัญเกี่ยวกับการออกแบบเสียงหรือ Sound Design มาเพื่อวิเคราะห์ตัวหนังกันครับ โดยข้อความสำคัญแรกเลยคือการออกแบบเสียงใน 3 องก์ของหนัง องก์แรกที่เป็นหนังผี คุณอู่ เลยการวางแบบการแสดงผลในแต่ละช่องสัญญาณ (Channel) ร่วมกับ ลี ทอง ผู้กำกับภาพยนตร์แบบคู่ขนานโดยเมื่อหนังตัดต่อเสร็จ ผู้กำกับจะมาร่วมดูว่า Sound Design
ของหนังแต่ละซีนสามารถลวงคนดูได้หรือไม่ โดยยิ่งไปกว่านั้นชาวไทยที่รู้จักดีกับจังหวะตุ้งแช่ของหนังผีดีอยู่แล้วถึงแม้ในทางของภาพรวมหนังบางทีอาจจะดูได้เรื่อย ไม่ได้น่าเบื่อหรือทนมองต่อไม่ได้ก็ตาม ก็พวกเรากลับมิได้รู้สึกว่าหนังเด่นในด้านไหนสักทาง มิหนำซ้ำจังหวะต่าง ๆ ในเรื่องยังมีความผิดที่ผิดทางและก็เกินเบอร์ไปหลายรอบ ฉากที่พวกเรามีความคิดว่ามันมาผิดจังหวะและไม่ได้เชื้อเชิญประทับใจต้องใจคือฉากย้อนอดีตรวมทั้งเพลงนกขมิ้นแทนจิตใจ
หรือจนกระทั่งความเพียรพยายามคุ้มคลั่งเป็น Kill Bill ตามสไตล์ผู้กำกับเควนติน ทารันติเตียนโน่ช่วงท้ายเรื่องก็มองอิหยังวะอยู่ไม่น้อย กล่าวรวม ๆ เป็นหนังหยิบเอาสไตล์หนังผีพีเรียดหลาย ๆ เรื่องมายำ ๆ รวม ๆ กันอย่างไรก็ตามถ้าจะหาหนัง Netflix ดูกั้นเวลาแล้ว “สาวลับใช้” ก็ไม่ใช่หนังที่คุณควรกดข้าม ขั้นต่ำดูไว้เอาไว้คุยเมาท์กับเพื่อนพ้องในมื้อนัดหมายกินข้าวครั้งถัดไปก็ไม่เลวขอรับ
สาวลับใช้ บอกเล่าเรื่องราวของจอย เด็กหญิงคนใหม่ที่สมัครเข้ามาทำงานเป็นขี้ข้าประจำคฤหาสน์อันแสนโอ่อ่า แต่เมื่อเธออยู่ไปเรื่อยเธอกลับพบความไม่ปกติบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเจ้าของ รวมไปถึงความลับอันดำมิดหมี นอกจากนั้นเธอยังถูกตามล่าจากวิญญาณสาวรับใช้คนก่อนอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุว่าความจริงกำเนิดอะไรขึ้นกันแน่สาวลับใช้ถือเป็นหนังสยองขวัญ Original Netflix เรื่องแรกของเมืองไทย ผลงานการกำกับของลี ทอง ที่ถือเอาเรื่องราวความลับของคฤหาสน์หรูมาเป็นตัวกระตุ้นความอยากรู้ของผู้ชม
ด้วยแนวทางจัดวางส่วนประกอบด้านภาพแล้วก็จัดวางสถานที่ให้มีกลิ่นอายวินเทจย้อนยุค แม้กระนั้นปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกันว่าวิธีการนำเสนอดังที่กล่าวผ่านมาแล้วทำให้หนังมีลักษณะค่อนไปทางละครเวทีประกอบกับการเล่นใหญ่ ๆ เกินเบอร์ของทีมนักแสดงก็ยิ่งทำให้พวกเรารู้สึกถึงความไม่ธรรมชาติแล้วก็ถูกปรุงแต่งตลอดเวลาที่ตลกโปกฮาที่สุดคือวิธีการออกแบบการปรากฏตัวละครคุณอุมา (สาวิกา ไชยเดช) ที่เราก็ไม่ค่อยมั่นใจนักว่าเธอเป็นคุณนายประจำบ้านหรือแม่เล้าซ่องโสเภณีในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กันแน่
เนื่องจากว่าจริตอันแสนเกินเบอร์และก็วิธีการแต่งตัวนั้นก็ทำให้พวกเราอดคิดไปในแนวทางนั้นไม่ได้ (และก็แม้ว่าหนังจะมีคำอธิบายตามมาในภายหลังมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักเช่นเดียวกัน)ความขำขันแบบไม่ได้ตั้งใจหนัง เริ่มตั้งแต่ทีแรก ๆ ของเรื่องที่สาวใช้คนก่อนที่จะลาออกไปรวมทั้งจำเป็นต้องไปหารือกับจิตแพทย์ว่าเธอกำลังถูกวิญญาณผีตุ๊กตาลิงตามไล่ล่า
แต่ว่าด้วยการแสดงที่แข็งโปกของตัวละครยิ่งทำให้เราอดขำมิได้เลยจริง ๆ ขั้นตอนการแบ่งตอนของหนัง (Chapter) หากแม้ตัวผู้ควบคุมจะตั้งอกตั้งใจให้แต่ละช่วงทำหน้าที่สำหรับเพื่อการเล่าเรื่องได้น่าดึงดูด ตัวอย่างเช่น Chapter 1 เป็นช่วง ๆ ผีหลอก Chapter 2 เป็นตอน ๆ ที่หนังรีบคลี่คลายความลับในอดีต แล้วก็ Chapter 3 เป็นผลสรุปของเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวง แม้กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิธีการเล่าแบบนี้ทำให้หนังถูกแยกอารมณ์ในแต่ละห้วงออกมาจากกันอย่างแจ่มแจ้ง ระยะแรกขายตุ้งแช่ ช่วงต่อมาขายความอิโรว่ากล่าวกและช่วงสุดท้ายคือขายความบ้าคลั่ง แม้กระนั้นเมื่อรวมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วหนังปราศจากเอกเทศและความกลมกลืนอย่างสิ้นเชิง